233 จำนวนผู้เข้าชม |
ความร้อนจากแสงอาทิตย์ ที่หลายๆบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม หรือคอนโดมิเนียม ถือเป็นอีกปัญหาหลักของผู้อยู่อาศัยที่จะต้องพบเจอ และหลีกเลี่ยงไม่ได้นั้น "ฟิล์มกรองแสงติดกระจกบ้าน" ถือเป็นอีกทางเลือกและเป็นตัวช่วยในการลดสิ่งไม่พึงประสงค์จากแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านกระจกประตู-หน้าต่าง ไม่ว่าจะเป็น “ความร้อน” ที่ทำให้เรารู้สึกแสบผิว เหนอะหนะ และสิ้นเปลืองค่าแอร์ “แสงจ้าของพระอาทิตย์” ที่ทำให้ไม่สบายตา รวมถึง “รังสี UV” ที่ทำร้ายผิวหนัง ทั้งยังทำให้ข้าวของเครื่องใช้และเฟอร์นิเจอร์ในบ้านสีซีดจางเสื่อมสภาพ วันนี้เราจึงขอนำเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวสำหรับฟิล์มกรองแสงมาฝากสำหรับเจ้าของบ้านที่สนใจอยากจะใช้งานมาเป็นอีกทางเลือกแก่เจ้าของบ้านกัน
ฟิล์มอาคารมีกี่แบบ ?
ถ้าแบ่งตามลักษณะของฟิล์ม ก็จะมีอยู่ 5 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้
1. ฟิล์มดำ (กรองแสง ลดแสงจ้า, สร้างความเป็นส่วนตัว)
2. ฟิล์มปรอท (สวยงาม, สร้างความเป็นส่วนตัว, ลดความร้อนได้ดี, ราคาไม่แพง)
3. ฟิล์มใสกันร้อน (ต้องการโชว์ภายใน, ไม่บดบังทัศนียภาพ, กันร้อน)
4. ฟิล์มนิรภัย (ลดการกระแทรก, ป้องกันการแตกกระจายของกระจก)
5. ฟิล์มตกแต่ง (กันสายตา, เพื่อความสวยงาม, สร้างความเป็นส่วนตัว)
จะเลือกฟิล์มกรองแสงติดกระจกบ้านอย่างไรให้เหมาะและดี ?
1. พิจารณาคุณสมบัติของฟิล์มกรองแสงให้ตรงความต้องการ หลักง่ายๆ คือ ให้เลือกความเข้มความใสที่ต้องการ หรือดูที่ค่าแสงส่องผ่านของฟิล์มแต่ละรุ่น ซึ่งจะส่งผลในเรื่องการลดแสงจ้าของพระอาทิตย์ ความเป็นส่วนตัว และความชัดในการมองวิวด้านนอก จากนั้นจึงดูค่าการลดความร้อนจากแสงแดด สำหรับฟิล์มที่มีสีและความเข้มความใสใกล้เคียงกัน รุ่นที่สะท้อนแสงดีกว่า (ดูคล้ายกระจกเงาเมื่อมองจากภายนอก) ส่วนใหญ่จะลดความร้อนได้มากกว่า เพราะมีปริมาณโลหะเคลือบเยอะกว่า (ยกเว้นฟิล์มเคลือบเซรามิกซึ่งกันความร้อนได้ดีแต่จะสะท้อนแสงน้อยกว่าฟิล์มเคลือบโลหะ) ทั้งนี้ หากเจ้าของบ้านต้องการเน้นเรื่องการลดความร้อนเป็นพิเศษ อาจเลือกรุ่นที่ได้รับการรับรองมาตรฐานฟิล์มประหยัดพลังงานเบอร์ 5*
2. จุดประสงค์การใช้งานและตำแหน่งที่ตั้ง เช่น ห้องอยู่ชั้นล่างและต้องการบังสายตาอาจเน้นฟิล์มสีเข้ม ห้องทางทิศตะวันตกซึ่งโดนแดดแรงควรเลือกฟิล์มที่ช่วยลดแสงจ้าของพระอาทิตย์และมีค่ากันความร้อนสูง สำหรับห้องที่ต้องการชมวิวทั้งกลางวันและกลางคืนแต่ต้องการลดความร้อนด้วย อาจใช้ฟิล์มใส ค่าแสงส่องผ่านสัก 40% แต่กันความร้อนได้สูง เป็นต้น (สำหรับคอนโดมิเนียม มักมีข้อกำหนดเรื่องฟิล์มกรองแสง เช่น ความเข้ม สี การสะท้อนแสง ควรเช็คกับทางนิติบุคคลก่อนเลือกซื้อฟิล์ม)
3. ยี่ห้อฟิล์มและร้านค้าที่น่าเชื่อถือ โรงงานผลิตต้องได้มาตรฐาน บริษัทผู้นำเข้าควรมีชื่อเสียงในการขายสินค้าคุณภาพคุ้มราคามาเป็นเวลานาน ในส่วนของร้านค้า แนะนำซื้อฟิล์มจากร้านที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้จำหน่ายโดยสังเกตจากป้ายหน้าร้าน ใบรับรองการแต่งตั้ง ใบรับประกันสินค้า หรือโทรสอบถามจากบริษัทฟิล์มโดยตรง
4. ทีมติดตั้งฟิล์มควรมีความชำนาญ สามารถกรีดตัดฟิล์มให้ได้ขนาดเสมอพอดีกับขอบยาง โดยไม่ทำให้กระจกเป็นรอย รวมถึงไม่กรีดโดนขอบยางกระจกเสียหาย เพราะหากกรีดโดนขอบยาง แม้จะใช้ซิลิโคนยิงซ่อมก็อาจเกิดปัญหารั่วซึมเมื่อใช้งานไปนานๆ ได้ (ควรยิงซิลิโคนเท่าที่จำเป็นตามสภาพหน้างานเท่านั้น เช่น กรณีที่ต้องเลาะซิลิโคนของเดิมหรือขอบยางเสื่อม เป็นต้น)